เมนูอาหารภาคกลาง


                                            อาหารภาคกลาง
  อาหารภาคกลางมีความหลากหลายมาก และเป็นอาหารที่คนเกือบทั้งประเทศ
คุ้นเคยรู้จักอาหารภาคกลางมีทั้งรสเค็ม เปรี้ยว หวานและเผ็ดรวมกัน อาหารหลายจาน
ของภาคกลางจัดเป็นอาหารจานสมุนไพรชั้นเยี่ยม เช่นปลาช่อนผัดฉ่า ที่หอมกรุ่นด้วยข่า
กระชาย ใบมะกูด และพริกไทย หรือแกงเขียวหวาน ที่มีกลิ่นหอมเป็นพิเศษจาก
พริกแกงเขียวหวาน น้ำพริิกลงเรือ หมูหวาน กินกับใบไม้ ้ดอกไม้มากมาย หรือ
สะเดาน้ำปลาหวาน ที่เกิดจากความชาญฉลาดของคนโบราณที่นำเอาผักที่มีรสขม
อย่างดอกสะเดามากินกับรสหวานของน้ำปลาหวาน ทำให้เกิดความสมดุลในรสชาติ
อร่อยเฉพาะตัว


                                         เมนูอาหาร
แกงเขียวหวานปลากราย
ปลาช่อนผัดฉ่าน้ำพริกลงเรือ
ยำทวายพล่าปลากะพงกรอบ

แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย
     แกงเขียวหวานเป็นเอกลักษณ์ของอาหารภาคกลางที่ปรุงแต่งด้วยกะทิที่เข้มข้นจริงๆ แกงเขียวหวานมีหลายชนิด เช่น แกงเขียวหวานไก่ แกงเขียวหวานหมู แกงเขียวหวานปลาดุก และ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย แต่ถ้าเอ่ยชื่อแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายจะเป็นที่นิยมที่สุดเนื่องจากเนื้อของปลากรายจะเป็นที่นิยมที่สุด เนื่องจากเนื้อของปลากรายจะมีลักษณะอ่อนนุ่มเหนียว กลิ่นคาวน้อย เหมาะสำหรับปรุงเป็นแกงเขียวหวานที่มีรสชาติอร่อยยิ่งนัก

เนื้อปลากรายสับละเอียด
800 กรัม
มะเขือพวง
100 กรัม
มะเขือเปราะผ่าสี่
200 กรัม
มะพร้าวขูด
1 กิโลกรัม
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง
3 เม็ด (5 กรัม)
กระเทียมโขลกละเอียด
10 กลับ (30 กรัม)
รากผักชีโขลกละเอียด
½ ช้อนโต๊ะ (8 กรัม)
กระชายซอยเป็นเส้นยาว ๆ
½ ถ้วย (20 กรัม)
โหระพาเด็ดเป็นใบ ๆ
½ ถ้วย (20 กรัม)
ใบมะกรูดฉีก
3 ใบ (7 กรัม)
น้ำตาลปีบ
1 ถ้วยตวง (60 กรัม)
น้ำปลา
¼ ถ้วยตวง (40 กรัม)

พริกหวานสีเขียวหั่นละเอียด
2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
พริกสดสีเขียว
10 เม็ด (20 กรัม)
หอมแดงซอย
6 หัว (80 กรัม)
กระเทียมซอย
6 กลีบ (30 กรัม)
ข่าหั่นละเอียด
1 ช้อนชา (8 กรัม)
ตะไคร้หั่นฝอย
1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
กระชายปอกเปลือกหั่น
1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด
1 ช้อนชา (8 กรัม)
ลูกผักชี
½ ช้อนโต๊ะ (8 กรัม)
ยี่หร่า
½ ช้อนโต๊ะ (8 กรัม)
พริกไทยเม็ด
5 เม็ด (5 กรัม)
เกลือป่น กะปิ อย่าละ
½ ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 8 กรัม)
     1. โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด
     2.
 คั้นมะพร้าวให้ได้กะทิ 1 ถ้วย หางกะทิ 4 ถ้วย
     3.
 เนื้อปลากรายโขลกรวมกับกระเทียม รากผักชีแล้วใส่ลงในหม้อน้ำเดือดพอปลาสุกปั้นให้เป็นก้อนกลมเท่าหัวแม่มือ ตักออก พักไว้
     4.
 ตั้งกะทิแล้วนำหัวกะทิลงเคี่ยวจนแตกมัน นำเครื่องแกงลงผัดให้หอม ใส่ลูกชิ้นปลากราย กระชาย ใส่หางกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด พอมะเขือสุก ยกลง ตักใส่ภาชนะรับประทานร้อนๆ
หมายเหตุ ส่วนผสมนี้สำหรับ 5 คน
     1. กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหารแก้โรคทางผิวหนัง น้ำมันกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในหลอดเลือด
     
2. กระชาย รสเผ็ดร้อน แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม แก้บิดมีตัว ขับพยาธิตัวกลมและพยาธิเส้นด้ายในเด็กใช้แต่งกลิ่นสีรสอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ไม่มีพิษ
     
3. โหระพา ใบรสเผ็ดปร่าหอม แก้ท้องขึ้น อืดเฟ้อ แก้ลมวิงเวียน ช่วยย่อยอาหาร ขับลมในลำไส้ ขับเสมหะ
     
4. ใบและผิวมะกรูด รสปร่า กลิ่นหอมติดร้อน ใช้ปรุงอาหาร ช่วยดับกลิ่นคาว แก้โรคลักปิดลักเปิด ขับลมในลำไส้ ขับระดู แก้ลมจุกเสียด
     
5. หอมแดง รสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด
     
6. ข่า รสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด
     
7. ตะไคร้ทั้งต้น แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร และขับเหงื่อ
     
8. ยี่หร่า ใช้แต่งกลิ่นอาหารให้หอม ช่วยขับลม
     
9. พริกไทย รสเผ็ดร้อน ขับลม ขับเหงื่อ ช่วยเจริญอาหาร
     
10. รากและต้นผักชี ช่วยละลายเสมหะ แก้หัด ขับเหงื่อ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เจริญอาหาร
     
11. มะเขือพวง รสขมเฝื่อนเปรี้ยวเล็กน้อย แก้ไอ ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ
     
12. มะเขือเปราะ รสขมเล็กน้อย กระตุ้นการทำงานของกระเพาะลำไส้
     
13. มะพร้าวขูด รสมันหวาน บำรุงกำลัง บำรุงเส้นเอ็น ใช้รักษาโรคกระดูก
     
14. พริกชี้ฟ้า รสเผ็ด ช่วยเจริญอาหาร ขับลม
     แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย เป็นแกงที่ได้รับการประยุกต์ต่อๆ กันมาเป็นอาหารที่มีรสชาติกลมกล่อมมันหวานเหมาะสำหรับคนธาตุดินรับประทานดียิ่งนัก
     แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย 1 ชุด ให้พลังงานต่อร่างกาย 4308 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย
          - น้ำ 77.6 กรัม
          - โปรตีน 200.9 กรัม
          - ไขมัน 6.8 กรัม
          - คาร์โบไฮเดรต 7.6 กรัม
          - กาก 92.9 กรัม
          - ใยอาหาร 2.9 กรัม
          - แคลเซียม 1106.31 มิลลิกรัม
          - ฟอสฟอรัส 2718.5 มิลลิกรัม
          - เหล็ก 116.4 มิลลิกรัม
          - เรตินอล 2.64 ไมโครกรัม
          - เบต้าแคโรทีน 746 ไมโครกรัม
          - วิตามินเอ 13,645.4 IU
          - วิตามินบีหนึ่ง 166.34 กรัม
          - วิตามินบีสอง 1.91 มิลลิกรัม
          - ไนอาซิน 3.91 มิลลิกรัม
          - วิตามินซี 8.16 มิลลิกรัม



 ห่อหมกปลา
     ห่อหมกปลาเป็นอาหารยอดฮิตของชาวนักชิมทั้งหลายที่แสวงหาอาหารตามใจปาก ห่อหมกปลาที่คนนิยมสั่งมารับประทานคือ ห่อหมกปลาช่อนซึ่งจะมีรสชาติเข้มข้น เนื้อปลาแน่น ไม่มีกลิ่นคาว โดยเฉพาะห่อหมกพุงปลาช่อนจะเป็นความอร่อยสุดยอดของห่อหมกและมีราคาแพงกว่าส่วนอื่นๆ

เนื้อปลาช่อน
400 กรัม
มะพร้าวขูด
200 กรัม
แป้งข้าวเจ้า
1 ช้อนชา (8 กรัม)
ไข่
1 ฟอง (60 กรัม)
ใบยออ่อน
20 ใบ (300 กรัม)
ใบมะกรูดหั่นฝอย
3 ช้อนโต๊ะ (45 กรัม)
ผักชีซอย
2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
พริกชี้ฟ้าแดงซอย
3 เม็ด (5 กรัม)
น้ำปลา
1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
ใบตองสำหรับเย็บกระทง


พริกแห้งแช่น้ำ
10 เม็ด (20 กรัม)
กระเทียม
3 หัว (50 กรัม)
ข่าซอย
2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
ตะไคร้ซอย
1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
ผิวมะกรูดซอย
1 ช้อนชา (8 กรัม)
รากผักชีซอย
2 ช้อนชา (15 กรัม)
พริกไทย
5 เม็ด (5 กรัม)
เกลือป่น
½ ช้อนชา (4 กรัม)
กะปิ
1 ช้อนชา (8 กรัม)
     1.โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด
     2. แล่เนื้อปลาเป็นชิ้นบางๆ
     3. คั้นมะพร้าวให้ได้กะทิ 2 ถ้วย แบ่งหัวกะทิไว้ ¾ ถ้วย ใส่แป้งข้าวเจ้าลงในหัวกะทิ คนให้ละลายน้ำไปตั้งไฟจนเดือด ยกลง ใช้ราดหน้าห่อหมก
     4.แบ่งกะทิมา 1 ถ้วย คนกับเครื่องแดงให้เข้ากันดี ใส่ปลา ไข่ น้ำปลา คนให้เข้ากัน ค่อนๆ ใส่กะทิที่เหลือ คนให้เข้ากัน
     5. ใส่ใบโหระพา ½ ถ้วย ผักชี 1 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูด 2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน
     6. เย็บกระทงใบตอง แล้วรองด้วยใบยอ ตักส่วนผสมห่อหมกปลาใส่กระทง
     1. มะพร้าว รสมันหวาน บำรุงกำลัง บำรุงเส้นเอ็น ใช้รักษากระดูก
     
2. ใบยออ่อน ใช้กินแก้กษัย แก้ปวดตามข้อนิ้วมือนิ้วเท้า บำรุงธาตุ แก้ไข้ แก้ท้องร่วงในเด็ก แก้เหงือกปวดบวม
     
3. ใบและผิวมะกรูด รสปร่า กลิ่นหอมติดร้อน ใช้ปรุงอาหาร ใบสดช่วยดับกลิ่นคาว แก้โรคลักปิดลักเปิด ขับลมในลำไส้ ขับระดู แก้จุกเสียด
     
4. รากและต้นผักชี ช่วยละลายเสมหะ แก้หัด ขับเหงื่อ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เจริญอาหาร
     5. พริกชี้ฟ้า รสเผ็ด ขับลม ช่วยย่อย ช่วยเจริญอาหาร
     
6. กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคทางผิวหนัง น้ำมันกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อรา แบคทีเรียและไวรัส ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในหลอดเลือด
     
7. ข่า รสเผ็ดปร่าและร้อน ช่วยขับลม ขับโลหิตร้ายในมดลูก ขับลมในลำไส้
     
8. กระชาย รสเผ็ดร้อน ใช้เป็นเครื่องเทศ ประกอบอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม แก้บิดมีตัว ขับพยาธิตัวกลม
     
9. ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร และขับเหงื่อ
     
10. พริกไทย รสเผ็ดร้อน ขับลม ขับเหงื่อ ช่วยเจริญอาหาร
     
11. โหระพา ใบรสเผ็ดปร่าหอม แก้ท้องขึ้น อืดเฟ้อ แก้ลมวิงเวียน ช่วยย่อยอาหาร ขับลมในลำไส้ ขับเสมหะ
     ห่อหมกปลา เป็นอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งมีส่วนประกอบที่เป็นอาหารสมุนไพรที่สามารถช่วยในการปรับธาตุและเจริญอาหารได้อย่างดียิ่ง
     ห่อหมกปลา 1 ชุด ให้พลังงานต่อร่างกาย 1,703 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย
          - น้ำ 78.52 กรัม
          - โปรตีน 7.2
          - ไขมัน 6.8 กรัม
          - คาร์โบไฮเดรต 7.1 กรัม
          - กาก 34.9 กรัม
          - ใยอาหาร 2.0 กรัม
          - เถ้า 2.6 กรัม
          - แคลเซียม 1,994.8 มิลลิกรัม
          - ฟอวฟอรัส 47.7 มิลลิกรัม
          - เหล็ก 54.1 มิลลิกรัม
          - วิตามินบีหนึ่ง 1.7 มิลลิกรัม
          - วิตามินบีสอง 1.7 มิลลิกรัม
          - ไอนาซิน 3.4 มิลลิกรัม
          - วิตามินซี 55.5 มิลลิกรัม








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น